ชวินดา หาญรัตนกูล
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ชวินดาให้มุมมองว่า “ในโลกการลงทุนที่ท้าทายและรวดเร็วมากขึ้น สิ่งที่เราอยากเห็นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ คือการโฟกัสเพิ่มเติมทั้งในเชิงของ Macro และ Micro โดยอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีหรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจับตา
“Macro คือการมอนิเตอร์การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมต่างๆ ในโลกอย่างใกล้ชิด ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจควบคุมได้ บางอย่างก็ไม่อาจควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและอํานวยความสะดวกให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

“ส่วนในเชิง Micro นั้นจะเป็นลักษณะของการดูแลบริษัท ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทําอย่างไรให้บริษัทเหล่านี้มีความแข็งแรงและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ปัจจุบันจะพบว่า หลายบริษัทอาจทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีหลายบริษัทที่ยังต้องการการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากระบบที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนํามาใช้ในการตรวจสอบและติดตาม ส่งเสริมให้เกิดการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนรู้เท่าทันความเคลื่อนไหวหรือความเปลี่ยนแปลงของบริษัทเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นเพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น”
บุญพรมองความท้าทายในปัจจุบันในเรื่องของเทคโนโลยีเช่นเดียวกันว่า “การรุดหน้าของเทคโนโลยีย่อโลกการลงทุนทั้งใบมาอยู่ในมือของเรา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในตําแหน่ง แห่งที่ไหน นักลงทุนทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้หมดแล้ว แต่นอกจากในแง่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เทคโนโลยีกลับสร้างแง่มุมที่เป็นความท้าทายขึ้นมา นั่นคือการเกิดขึ้นของกลโกงมิจฉาชีพต่าง ๆ
“ดังนั้น ตลาดทุนไทยย่อมพบกับความท้าทายเป็นอย่างยิ่งในแง่ของการแข่งขันกับตลาดทุนโลก เราจึงต้องพัฒนาและส่งเสริมความสามารถ ตลอดจนเรื่องของกฎระเบียบ เสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ต้องตามให้ทัน โดยเฉพาะถ้ากฎระเบียบยังล้าหลังก็อาจจะเปิดช่องให้พวกมิจฉาชีพเข้ามาเอาเปรียบ ในที่สุดแล้วอาจทําให้ตลาดบ้านเราหมดความน่าเชื่อถือลงไป”
สันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการบริหาร วารสารการเงินธนาคาร ฉายภาพตลาดทุนผ่านประสบการณ์ในแวดวงการลงทุนอย่างยาวนานในฐานะสื่อมวลชนอาวุโส พร้อมกับข้อเสนอที่อยากเห็นเพิ่มเติมในอนาคตว่า
“หลายคนเคยมองว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ เปรียบเสมือนแหล่งการพนันหรือบ่อนของนักลงทุน ถามว่าปัจจุบันยังมีหรือเปล่า ต้องบอกว่าก็ยังมีอยู่ แต่ที่ผ่านมาเราก็เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ก็มีความพยายามอย่างแข็งขันในการดูแลและจัดการไม่ให้เกิดการเข้ามาปั่นหรือล่อลวงนักลงทุน
“สิ่งที่อยากจะเสริมเพิ่มเติมก็คือ การให้ความรู้กับนักลงทุนเป็นเรื่องสําคัญและจะเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหาการโกงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมคาดหวังว่า อีกไม่ช้า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการจัดทําฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้นักลงทุนทั่วไปไม่ตกหลุมพรางของนักปั่นหุ้นหรือนักสร้างราคาที่จะเข้ามาล่อลวงในตลาดทุนไทย”
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านความท้าทายมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะความท้าทายด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันในความท้าทายนั้นเองก็มีโอกาสมากมายรออยู่ หากภารกิจการปรับเปลี่ยนตัวเองสู่อนาคตของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นไปตามเป้าหมายหรือความคาดหวัง โลกที่รออยู่ย่อมเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ ๆ สําหรับนักลงทุนภาคธุรกิจ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและเศรษฐกิจไทยโดยรวมได้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นบทพิสูจน์ถึงการเดินทางต่อไปในยุคแห่ง Technology Disruption ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในทศวรรษต่อ ๆ ไปเช่นเดียวกับความท้าทายที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ผ่านมาอย่างประสบความสําเร็จตลอด 50 ปี